เปิดตัว Moto G5S และ G5S Plus มาพร้อมกล้องคู่ ชิปเซ็ต Snapdragon 625, RAM 4GB บนบอดี้โลหะกันน้ำ
หลังจากตกเป็นข่าวอยู่พักใหญ่ๆ ล่าสุดทางด้านค่าย Lenovo ก็ได้ทำการเปิดตัว Moto G5S และ G5S Plus มือถือรุ่นอัพเกรดในตระกูล G-Series ของ Motorola ออกมาอย่างเป็นทางการแล้วครับ
ทั้งนี้สำหรับ Moto G5S และ G5S Plus เป็นมือถือรุ่นต่อยอดของ Moto G5 และ G5 Plus ที่เปิดตัวไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งในรุ่นอัพเกรดนี้ มาพร้อมจุดเด่นคือ กล้องคู่ (Dual-Camera) และบอดี้โลหะกันน้ำ
สเปค Moto G5S
Moto G5S มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 430 ความเร็ว 1.4 GHz หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 505 พร้อม RAM ขนาด 3GB ส่วนความจุในตัวเครื่องขนาด 32GB
Moto G5S มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 และรองรับระบบการโฟกัสภาพแบบ PDAF ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
Moto G5S มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว TurboPower เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับเครือข่าย 4G LTE และรัน Android 7.1 Nougat
สเปค Moto G5S Plus
Moto G5S Plus มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 625 ความเร็ว 2.0 GHz หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 506 พร้อม RAM ขนาด 3GB และ 4GB ส่วนความจุในตัวเครื่องขนาด ขนาด 32GB และ 64GB
Moto G5S Plus มาพร้อมกับกล้องหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช Dual-Tone LED, ขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0, เลนส์ซูมแบบ X8 Digital Zoom และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ที่ด้านหน้า, เลนส์มุมกว้าง (Wide-Angle) และมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0
Moto G5S Plus มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว TurboPower เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับเครือข่าย 4G LTE และรัน Android 7.1 Nougat
Moto G5S และ G5S Plus มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีเทา (Lunar Grey) และสีทอง (Fine Gold)โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศต่างๆ ภายในเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นได้ ด้วยราคา 249 ยูโร (ประมาณ 9,800 บาท) และ 299 ยูโร (ประมาณ 11,800 บาท)